วิธีการเปิดบัญชีเทรดหุ้น สำหรับนักลงทุนมือใหม่
วิธีการเปิดบัญชีเทรดหุ้น สำหรับนักลงทุนมือใหม่
1.ขอเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นโดยการติดต่อกับบริษัทหลักทรัพย์
การขอเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นนั้น แตกต่างจากการเปิดบัญชีเงินฝากที่ไม่ค่อยมีขั้นตอนวุ่นวายอะไรมากนัก แต่จะคล้ายกับการที่เราไปกู้เงิน คือ มีขั้นตอนซับซ้อนหรือมีการขอหลักฐานต่างๆ เพื่อให้แน่ใจ ว่าเรามีตัวตนจริงๆในทางกฏหมายและการซื้อขายเป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยบัญชีที่เราจะไปเปิดก็มีหลายประเภทแตกต่างกันออกไป ดังนี้
บัญชีเงินสด(Cash Account) เป็นบัญชีที่ต้องชำระค่าซื้อขายหุ้นด้วยเงินสดเต็มตามจำนวนที่ซื้อขายภายใน 3 วันทำการ โดยบริษัทหลักทรัพย์จะพิจารณาวงเงินที่เหมาะสมตามฐานะการเงิน หลักประกันและความสามารถในการชำระหนี้ของเรา สิ่งที่เราต้องมีคือ เงินประกัน 15% ของวงเงินที่อนุมัติ
บัญชีแคชบาลานซ์(Cash Balance/Pre-paid/Cash Deposit) เป็นบัญชีที่ต้องนำเงินไปฝากไว้กับบริษัทหลักทรัพย์ โดยจะได้วงเงินซื้อขายหุ้นเท่ากับจำนวนที่นำไปฝากไว้ ส่วนเงินฝากของเราก็ไม่ต้องกังวลใจว่าเงินส่วนที่ไม่ได้มีการซื้อขายหุ้นนั้นจะมาดองไว้ตรงนี้ เขาให้ดอกเบี้ยด้วยน่ะครับ ในกรณีที่วงเงินของเราไม่พอกับมูลค่าหุ้นที่ต้องการซื้อขาย เราก็สามารถโอนเพิ่มได้ครับ ซึ่งบัญชีนี้แหล่ะครับเป็นบัญชีที่มือใหม่โดยเฉพาะการที่มีเบี้ยน้อยหอยน้อย ก็จะเป็นที่ทราบกันดีว่าบัญชีประเภทนี้ใช้เงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาก ก็เปิดบัญชีให้มีการซื้อขายได้ครับ อีกทั้งบัญชีนี้เป็นบัญชีที่ไม่ได้ใช้เงินในอนาคตหรือหนี้มาเป็นส่วนผสมของการลงทุน เมื่อมือใหม่อย่างเราๆท่านๆเกิดพลาดเป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟเมื่อไร ก็จะไม่มีภาระหนี้สินที่ตามมา ผมสนับสนุนให้เปิดบัญชีประเภทนี้เป็นอย่างมากครับ
บัญชีมาร์จิ้นหรือเครดิตบาลานซ์ (Margin Account/Credit Balance) เป็นบัญชีที่สามารถกู้ยืมเงินเพื่อซื้อขายหุ้นจากบริษัทหลักทรัพย์ได้บางส่วน แต่แน่นอนว่าพอมีคำว่า กู้ เป็นต้องมีเงินสดหรือหุ้นวางเป็นหลักประกัน หรือแม้แต่ดอกเบี้ยที่เราก็ต้องจ่ายเพราะถือว่าเรากู้เงินเขามาซื้อหุ้น ส่วนวงเงินที่กู้ยืมอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามราคาหุ้นที่วางเป็นหลักประกันไว้ครับ ในกรณีที่ราคาหุ้นลดลงฮวบฮาบจนน่าตกใจจนอัตรามาร์จิ้นต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด บริษัทเขาต้องบังคับให้เราวางหลักประกันหรือเงินสดเพิ่ม แต่หากเราไม่ทำเขาก็บังคับขายหุ้นที่เป็นหลักประกันเพื่อรักษาอัตรามาร์จิ้นให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด
2.กรอกใบคำขอเปิดบัญชีพร้อมหลักฐานที่ใช้ในการเปิดบัญชี
การเปิดบัญชีนั้นต้องมีหลักฐานแนบเหมือนกันน่ะครับ ก็ไม่มีอะไรมากมาย คือ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี สำเนาในแจ้งรายการบัญชีธนาคารหรือสมุดบัญชีออมทรัพย์ย้อนหลัง 6 เดือน เมื่อกรอกพร้อมแนบหลักฐานเสร็จคงไม่อนุมัติในทันทีได้ครับ ต้องรอผลพิจารณา 1 - 2 สัปดาห์ครับ
3.เมื่อได้รับการอนุมัติเปิดบัญชี
เมื่อเรารอจนเขาอนุมัติเสร็จ สิ่งแรกที่เขาจะให้ก็คือ เลขที่บัญชีพร้อม PIN จากบริษัทเอาไว้ใช้สำหรับซื้อขายไม่ว่าช่องทางใดก็ตามก็จำเป็นต้องใช้สิ่งเหล่านี้ จึงต้องเก็บไว้ดีๆ ซึ่งทางบริษัทจะเน้นย้ำให้เก็บเป็นความลับกันน่ะครับ
4.การซื้อขายตามใจชอบผ่านเจ้าหน้าที่การตลาดหรือผ่านทางอินเตอร์เน็ต
เมื่อมาถึงจุดนี้ แปลว่า เราสามารถซื้อขายได้แล้วครับ จะผ่านเจ้าหน้าที่การตลาดที่มีคำแนะนำดีๆให้หรือหากเรามีข้อมูลที่ดีมากพอคิดว่าจะทำการใหญ่ได้ด้วยตัวเองก็เทรดแบบออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ตกันไปเลย แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นในการซื้อขายผู้ลงทุนจะต้องจ่ายค่านายหน้า (Commission) ให้กับบริษัทหลักทรัพย์เขาด้วย เพราะเขาคงไม่บริการฟรีเป็นองค์กรณ์การกุศล ซึ่งก็ตามที่ตกลงในเงื่อนไขการเปิดบัญชีจะจ่ายมากจ่ายน้อยขึ้นอยู่กับช่องทางการลงทุนและประเภทบัญชีของเราครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น